polymer society พอลิเมอร์ พลาสติก ยาง พอลิเมอร์สังเคราะห์ พอลิเมอร์ธรรมชาิติ

เป็นBlogของพวกเราชาวพอลิเมอร์ พลาสติก สิ่งทอและเทคโนโลยีการยางทุกคน ในBlogนี้จะทำการนำเสนอข่าวคราวของพวกเราชาวพอลิเมอร์ พลาสติกและเทคโนโลยีการยาง รวมทั้งเนื้อหาวิชาการซึ่งความรู้ต่างๆจะได้รับจากการเข้ามาโพสต์เพื่อช่วยกันตอบคำถามให้กับทุกคน ซึ่งอาจเป็นปัญหาที่เกิดจากการเรียน หรือจากงานที่ทำอยู่ ทั้งทางด้านอุตสาหกรรมพลาสติก ปิโตรเคมี สิ่งทอ ยางและอุตสาหรรมพอลิเมอร์อื่นๆที่เกี่ยวข้อง

วันจันทร์ที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

ข่าวรับสมัครงาน

ค้นหางานทางพอลิเมอร์หรืองานประเภทต่าง

Custom Search

ข่าวสารแรงงาน

วันอาทิตย์ที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

โหลดเสียงสนทนาภาษาอังกฤษ

ผมได้พยายามรวบรวม ไฟล์เสียงที่ตัวผมเองได้เคยมาฝึกฟัง เพื่อให้เคยชินกับสำเนียงภาษาของขาวต่างชาติมาให้ทุกๆคนได้โหลดเก็บเอาไว้ เพื่อนำไปใช้ในการฝึกภาษาอังกฤษกัน โหลดได้ฟรีๆครับ
คลิกตามลิงค์ แล้วก็โหลดตามปกติ หากใครมีปัญหาเรื่องโหลดแจ้งได้นะครับ

http://www.fileserve.com/file/Kp7DJdQ

http://www.fileserve.com/file/4SYZaUC

http://www.fileserve.com/file/CnhgTGq

http://www.fileserve.com/file/HwG4pf6

http://www.fileserve.com/file/Yybh5WR

http://www.fileserve.com/file/U2QYMVN

http://www.fileserve.com/file/eWCGtuk

http://www.fileserve.com/file/ZcgdXhp

http://www.fileserve.com/file/7BUE8Yz

http://www.fileserve.com/file/BPzA52c

http://www.fileserve.com/file/DJF8C2D

http://www.fileserve.com/file/CUEG32X

http://www.fileserve.com/file/dehfk5U

http://www.fileserve.com/file/42MyGMr

http://www.fileserve.com/file/p9Xgup9

http://www.fileserve.com/file/Gjn4cCr

หากLink ไหนมีปัญหาแจ้งได้นะครับ จะได้Upload ให้ใหม่ครับ

ภาษาอังกฤษ

การเรียนและฝึกภาษาอังกฤษซึ่งเป็นภาษาที่สอง หรืออาจเป็นภาษาที่สามหากรวมภาษาพื้นถิ่นอย่างเช่น ภาษาอีสาน ภาษาใต้ และภาษาเหนือของไทยแล้วนั้น นับว่ามีหลายวิธีการด้วยกัน ซึ่งทุกคนต่างทราบดีว่า ภาษาอังกฤษมีความสำคัญค่อนข้างมากกับการเรียนรู้ โดยเฉพาะในวิชาพอลิเมอร์ พลาสติก และเทคโนโลยีการยาง เพราะมีหนังสือมากมายที่เราต้องใช้ในการประกอบการเรียน หรือแม้ในขณะที่ทำงาน ภาษาอังกฤษก็ถือเป็นสิ่งสำคัญอย่างมากเช่นกัน เพราะบ้างครั้งเราต้องติดต่อสื่อสารกับลูกค้า หรือแม้แต่หัวหน้างานของเราเอง
การฝึกภาษาอังกฤษอย่างที่กล่าวไปแล้วว่ามีหลายวิธีการ ไม่ว่าการเรียนคอร์สพิเศษต่างๆ ซึ่งอาจใช้ค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง ซึ่งอาจให้ผลที่ดีสำหรับบ้างคน หรือคนที่ไม่ใส่ใจนักก็จะแทบจะเสียเงินเปล่ากันเลย ดังนั้นผมจึงมาแนะนำวิธีการต่างๆ ที่คิดว่ามีประโยชน์กับทุกๆคนมาให้ได้เรียนรู้ไปพร้อมกันครับ

1. การฝึกภาษาอังกฤษด้วยฟัง

เสียงสนทนาภาษาอังกฤษ

2. การฝึกภาษาอังกฤษด้วยการอ่านหนังสือ

นิทานภาษาอังกฤษ

1. The Lion and the Boar

The Lion and the Boar (สิงโตและหมูป่า)

The warm weather of a summer day made all the animals feel thirsty. Like other animals, the lion was going out to find some water to drink. The lion went straight to a small pond nearby. At the same time, a thirsty boar also walked towards the same pond. The lion and the boar faced each other beside the pond. Each wanted to be the first one to drink water. So they fought one another. Other animals who were nearby were frightened and ran away everywhere in confusion. The lion and the boar fought one another without giving up. Both were so tired and had no more strength. As they were about to fight again, they saw some vultures sitting on the branches and looking at them. "We'd better stop fighting," said the lion to the boar. "If not, we might become a meal for those vultures." The boar areed at once and the lion let him drink from the pond first. When both had drunk to their full, each went their way

อากาศที่ร้อนจัดของวันหนึ่งในฤดูร้อน ทำให้สัตว์ทั้งหลายรู้สึกกระหายน้ำไปตามๆ กัน สิงโตตัวนี้ก็เช่นกัน มันกำลังเดินออกไปหาน้ำดื่ม สิงโตเดินตรงไปยังบ่อน้ำเล็กๆ แห่งหนึ่งที่อยู่ไม่ไกลนักเวลานั้นมีหมูป่าที่กำลังหิวน้ำตัวหนึ่งเดินตรงมาที่บ่อน้ำแห่งนี้ด้วยเช่นกัน สิงโตและหมูป่าจึงประจันหน้ากันที่ข้างบ่อน้ำนั้น ทั้งคู่ต่างต้องการที่จะเป็นผู้ที่ได้ดื่มน้ำก่อน จึงเกิดการต่อสู้กันขึ้น สัตว์ตัวอื่นๆ ที่อยู่ใกล้ๆ ต่างพากันวิ่งหนีอย่างอลหม่าน สิงโตและหมูป่า ต่างก็ต่อสู้กันอย่างไม่ลดละจนหมดเรี่ยวแรงด้วยกันทั้งคู่และก่อนที่พวกมันจะลงมือต่อสู้กันอีกทั้งสองก็เหลือบไปเห็นนกแร้งกลุ่มหนึ่งกำลังเกาะอยู่บนกิ่งไม้และพากันจ้องมองมายังพวกมันอยู่สิงโตจึงหันมาพูดกับหมูป่าว่า "ข้าว่าเราเลิกต่อสู้กันเถอะ" "เพราะไม่เช่นนั้น เราทั้งสองอาจกลายเป็นอาหารของเจ้าแร้งพวกนั้นได้" หมูป่าเห็นด้วยจึงตอบตกลงในทันทีจากนั้นสิงโตก็บอกให้หมูป่าดื่มน้ำก่อนและเมื่อทั้งคู่ดื่มน้ำจนพอใจแล้ว จึงเดินแยกจากกันไปด้วยดี

1. weather = สภาพอากาศ

2. thirsty = กระหายน้ำ

3. lion = สิงโต

4. straight = ตรงแน่

5. pond = บ่อ

6. nearby = ใกล้เคียง

7. boar = หมูป่า

8. toward = ไปยัง

9. face = เผชิญหน้า

10. first = คนแรก

11. frightened = น่ากลัว

12. confusion = สับสนอลหม่าน

13. giving up = ยกเลิก

14. tired = เหนื่อย

15. strength = พละกำลัง

16. vulture = แร้ง

17. branch = กิ่งไม้

18. better = ดีกว่า

19. fighting = ต่อสู้กัน

20. meal = อาหาร

21. agree = เห็นด้วย

22. might = อาจจะ

23. at once = ทันทีทันใด

24. full = อิ่ม

วันจันทร์ที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2553

ประกาศพิธีพระราชทานปริญญาบัตรครั้งที่ 24

ประกาศพิธีพระราชทานปริญญาบัตรครั้งที่ 24

ด้วยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์
ในการพระราชทานปริญญาบัตรแก่บัณฑิตของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล ประจำปีการศึกษา 2552 ในวันจันทร์ที่ 15 วันอังคารที่ 16 และวันพุธที่ 17 พฤศจิกายน 2553 ทั้งช่วงเช้า และช่วงบ่าย ณ หอประชุมมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี ถนนรังสิต-นครนายก ตำบลคลองหก อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี

เพื่อให้พิธีพระราชทานปริญญาบัตรเป็นไปด้วยความเรียบร้อย และเป็นระเบียบ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี จึงขอแจ้งข้อปฏิบัติและกำหนดเครื่องแต่งกายของบัณฑิต และมหาบัณฑิต ไว้ดังนี้
1 วันฝึกซ้อมย่อย ให้แต่งกายสุภาพเรียบร้อย
2. วันฝึกซ้อมใหญ่ และวันเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตร ณ หอประชุมมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี ให้แต่งกายดังต่อไปนี้

อ่านรายละเอียด

ประกาศ คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี แจ้งนักศึกษาที่จะเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตร เตรียมเงินจำนวน 500 บาท
มาชำระค่ากิจกรรมจัดเตรียมความพร้อมในงานพิธีพระราชทานปริญญาบัตร ครั้งที่ 24 ประจำปีการศึกษา 2552 ในวันซ้อมย่อย ที่ 10 พฤศจิกายน 2553 ณ บริเวณสถานที่รายงานตัว คณะศิลปกรรมศาสตร์

ประกาศ ขอให้บัณฑิตปีการศึกษา 2552
กรอกแบบสอบถามภาวะการมีงานทำและแสดงความจำนงการเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตร คลิก

แหล่งรวมเว็ปไซด์ที่สำคัญ

Link งานประชุมวิชาการ

รวมงานประชุมวิชาการ

ห้องสมุดต่างๆในประเทศไทย

รวมห้องสมุดในประเทศไทย

สถาบันต่างๆทีเกี่ยวข้องกับด้านวัสดุศาสตร์และงานวิจัย

มหาวิทยาลัย

วันจันทร์ที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2553

ปฏิกิริยาการเกิดพอลิเมอร์ (Polymerization)

จากเนื้อหาครั้งที่แล้วนั้น ผมได้พูดถึงความหมายของพอลิเมอร์ และชนิดของพอลิเมอร์ซึ่งมีภาพประกอบให้ท่านผู้อ่านได้เข้าใจได้มากขึ้น ซึ่งบ้างครั้งในการดูแค่ภาพและอ่านนั้น ยากที่จะเข้าใจสำหรับบ้างคน เพราะจำเป็นต้องใช้จินตนาการอย่างมาก และความพยายามอย่างยิ่ง ดังนั้นในเนื้อหาในบทนี้และครั้งต่อๆไปผมจะมีเนื้อหาที่เป็นทั้งตัวหนังสือ ภาพที่สวยๆ และจะพยายามหาวีดีโอภาพเคลื่อนไหวเพื่อให้ท่านผู้อ่านทุกคนได้เข้ากับเนื้อหาได้มากขึ้น

การเกิดพอลิเมอร์

พอลิเมอร์เกิดขึ้นจากการเกิดปฏิกิริยาพอลิเมอร์ไรเซชันของมอนอเมอร์
พอลิเมอร์ไรเซชัน (Polymerization) คือ กระบวนการเกิดสารที่มีโมเลกุลขนาดใหญ่ ( พอลิเมอร์) จากสารที่มีโมเลกุลเล็ก ( มอนอเมอร์)

ปฏิกิริยาพอลิเมอร์ไรเซชัน

1. ปฏิกิริยาพอลิเมอร์ไรเซชันแบบเติม (Addition polymerization reaction) คือปฏิกิริยาพอลิเมอร์ไรเซชันที่เกิดจากมอนอเมอร์ของสารอินทรีย์ชนิดเดียวกันที่มี C กับ C จับกันด้วยพันธะคู่มารวมตัวกันเกิดสารพอลิเมอร์เพียงชนิดเดียวเท่านั้น ดังภาพ

2. ปฏิกิริยาพอลิเมอร์ไรเซชันแบบควบแน่น (Condensation polymerization reaction) คือปฏิกิริยาพอลิเมอร์ไรเซชันที่เกิดจากมอนอเมอร์ที่มีหมู่ฟังก์ชันมากกว่า 1 หมู่ ทำปฏิกิริยากันเป็นพอลิเมอร์และสารโมเลกุลเล็ก เช่น น้ำ ก๊าซแอมโมเนีย ก๊าซไฮโดรเจนคลอไรด์ เมทานอล เกิดขึ้นด้วย ดังภาพ

ขอบคุณเนื้อหาดีๆจาก http://nakhamwit.ac.th/pingpong_web/Polymer.htm
ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี่

วันพฤหัสบดีที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2553

Introduction พอลิเมอร์

ได้เวลาที่จะเข้าเนื้อหาจริงๆของweblog เสียที่ครับ เพราะเนื้อหาที่ผ่านมานั้น ล้วนแต่เกี่ยวข้องแบบในทางอ้อมๆ หรือไม่ก็ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับความตั้งใจจริงของผมที่จะทำweblogนี้ขึ้นเพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับพอลิเมอร์เป็นหลัก ซึ่งอาจจะถือฤกษ์วันนี้ วันพฤหัสบดีซึ่งเป็นวันครู ขอเริ่มเนื้อหากันเป็นจริงเป็นจังเลยดีกว่าครับ

พอลิเมอร์ (Polymer)

พอลิเมอร์ (Polymer) คือ สารประกอบที่มีโมเลกุลขนาดใหญ่ และมีมวลโมเลกุลมากประกอบด้วยหน่วยเล็ก ๆ ของสารที่อาจจะเหมือนกันหรือต่างกันมาเชื่อมต่อกันด้วยพันธะโควาเลนต์

มอนอเมอร์ (Monomer) คือ หน่วยเล็ก ๆ ของสารในพอลิเมอร์ ดังภาพ

ประเภทของพอลิเมอร์ แบ่งตามเกณฑ์ต่าง ๆ ดังนี้

1. แบ่งตามการเกิดเป็นเกณฑ์ เป็น 2 ชนิด คือ

ก . พอลิเมอร์ธรรมชาติ เป็นพอลิเมอร์ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ เช่น โปรตีน แป้ง เซลลูโลส ไกโคเจน กรดนิวคลีอิก และยางธรรมชาติ (พอลีไอโซปรีน)
ข . พอลิเมอร์สังเคราะห์ เป็นพอลิเมอร์ที่เกิดจากการสังเคราะห์เพื่อใช้ประโยชน์ต่าง ๆ เช่น พลาสติก ไนลอน ดาครอน และลูไซต์ เป็นต้น (เอาที่รู้จักก็แล้วนะครับ เช่นPE, PP, PS, Nylon, PET อีกมากมายครับ)

2. แบ่งตามชนิดของมอนอเมอร์ที่เป็นองค์ประกอบ เป็น 2 ชนิด คือ
ก . โฮมอลิเมอร์ (Homopolymer) เป็นพอลิเมอร์ที่ประกอบด้วยมอนอเมอร์ชนิดเดียวกัน เช่น แป้ง(ประกอบด้วยมอนอเมอร์ที่เป็นกลูโคสทั้งหมด) พอลิเอทิลีน PVC (ประกอบด้วยมอนอเมอร์ที่เป็นเอทิลีนทั้งหมด) ซึ่งรูปกลมๆแทนด้วย monomer หรือ หน่วยที่ซ้ำๆกันซึ่งเป็นชนิดเดียวกันนั้นเอง

ข . เฮเทอโรพอลิเมอร์ (Heteropolymer) เป็นพอลิเมอร์ที่ประกอบด้วยมอนอเมอร์ต่างชนิดกัน เช่น โปรตีน (ประกอบด้วยมอนอเมอร์ที่เป็นกรดอะมิโนต่างชนิดกัน) พอลิเอสเทอร์ พอลิเอไมด์ เป็นต้น

3. แบ่งตามโครงสร้างของพอลิเมอร์ แบ่งออกเป็น 3 แบบ คือ

ก. พอลิเมอร์แบบเส้น (Linear polymer) เป็นพอลิเมอร์ที่เกิดจากมอนอเมอร์สร้างพันธะต่อกันเป็นสายยาว โซ่พอลิเมอร์เรียงชิดกันมากว่าโครงสร้างแบบอื่น ๆ จึงมีความหนาแน่น และจุดหลอมเหลวสูง มีลักษณะแข็ง ขุ่นเหนียวกว่าโครงสร้างอื่นๆ ตัวอย่าง PVC พอลิสไตรีน พอลิเอทิลีน ดังภาพ

ซึ่งทุกครั้งที่พูดถึงเจ้าพอลิเมอร์แบบเส้น หรือ Linear polymer ผมจะคิดถึงเส้นขนมจีนทุกครั้งเพราะมันใกล้เคียงกันมาก ทำให้สามารถคิดเปรียบเทียบความอยู่ใกล้ชิดกันของสายโซ่พอลิเมอร์ซึ่งทำให้เกิดผลึกได้ง่ายขึ้นครับ

ข. พอลิเมอร์แบบกิ่ง (Branched polymer) เป็นพอลิเมอร์ที่เกิดจากมอนอเมอร์ยึดกันแตกกิ่งก้านสาขา มีทั้งโซ่สั้นและโซ่ยาว กิ่งที่แตกจาก พอลิเมอร์ของโซ่หลัก ทำให้ไม่สามารถจัดเรียงโซ่พอลิเมอร์ให้ชิดกันได้มาก จึงมีความหนาแน่นและจุดหลอมเหลวต่ำยืดหยุ่นได้ ความเหนียวต่ำ โครงสร้างเปลี่ยนรูปได้ง่ายเมื่ออุณหภูมิเพิ่มขึ้น ตัวอย่าง พอลิเอทิลีนชนิดความหนาแน่นต่ำ ดังภาพ

ค. พอลิเมอร์แบบร่างแห (Croos -linking หรือ network polymer) เป็นพอลิเมอร์ที่เกิดจากมอนอเมอร์ต่อเชื่อมกันเป็นร่างแห พอลิเมอร์ชนิดนี้มีความแข็งแกร่ง และเปราะหักง่าย ตัวอย่างเบกาไลต์ เมลามีนใช้ทำถ้วยชาม ดังภาพ

หมายเหตุ พอลิเมอร์บางชนิดเป็นพอลิเมอร์ที่เกิดจากสารอนินทรีย์ เช่น ฟอสฟาซีน ซิลิโคน

ขอบคุณเนื้อหาจาก http://nakhamwit.ac.th/pingpong_web/Polymer.htm ดูเนื้อหาเพิ่มเติมได้ที่นี่

วันศุกร์ที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2553

ฝึกภาษากับเพลง

      ช่วงนี้หน้าฝน อากาศกำลังดี ทำให้นอนสบายเลยนะครับ ยิ่งถ้าหากเป็นช่วงวันหยุดยาวๆ หรือเสาร์ อาทิตย์ยิ่งทำให้ไม่อยากออกจากบ้านไปเที่ยวไหนเลย เพราะด้วยกลัวฝน กล้วเปียกฝน กลัวรถติด สาระพัดกลัว หลายๆคนจึงคลุกตัวอยู่ในห้อง (อย่างเช่นตัวผมเองก็เหมือนกันครับ) ก็เลยนั่งเปิดคอมพิวเตอร์หาโน้น อ่านนี้ ลองหาเพลงโปรดของตัวเองที่เคยฟังเมื่อยังวัยสะรุ่นมาลองเปิดฟังดู ก็ได้อารมย์คิดถึงความหลังเข้าให้อีก
      แต่ก็เจอหลายเพลงเลยครับ แต่วันนี้เราฟังเพลงแล้วไม่ใช่ว่าจะได้แต่ความบันเทิงเพียงอย่างเดียวนะครับ เพราะอย่างเพลงภาษาอังกฤษ เราก็สามารถใช้เป็นการฝึกฟังสำเนียง การใช้ภาษาพูดของเจ้าของภาษาได้อย่างดีที่เดียวเลยครับ เพราะตัวผมเองก็ได้ฝึกฟังเพลงเพื่อฟังสำเนียงการออกเสียง (แต่ตอนนี้ก็ยังไม่ค่อยได้เรื่องเหมือนกันครับ แต่ก็ทำให้หูกระดิกบ้างแล้วครับ) และอย่างสำคัญเลยคือ ได้คำศัพท์ใหม่ๆมากมาย รวมทั้งประโยคเด็ด (เผื่อว่าใครคิดอยากจะจีบสาวหรือจะจีบหนุ่มๆต่างประเทศก็อาจได้ใช้ประโยคเด็ดในเพลงเหล่านี้ได้สบายๆเลยครับ)
       เพลงที่จะนำมาให้ทุกคนได้ฝึกกันวันนี้เป็นเพลงแรกที่ผมฟังแล้วชอบ และได้หาเนื้อเพลงฝึกร้องทุกวัน แต่เสียดายครับที่ร้านคาราโอเกะไม่ค่อยมีเพลงสากลกัน ไม่เช่นนั้นผมไม่พลาดร้องเพลงนี้แน่นอนครับ
     วันนี้ผมเลยเอาเพลงนี้มาฝากทุกคน มีทั้งเนื้อเพลงที่เป็นภาษาอังกฤษแปลเป็นไทยแล้วด้วยครับ รวมทั้งไฟล์เพลงครับลองโหลดดูครับ

สามารถโหลดดูMV เพลง All the love in the word ได้ที่นี่
โหลด file เพลงได้ที่นี่ All the love in the word
เนื้อเพลงสามารถโหลดได้จาก All the love in the word

ลองฝึกร้อง ฝึกฟังเพลงภาษาอังกฤษเยอะๆ จะได้เก่งภาษาอังกฤษกัน วันต่อไปจะเอาเพลงใหม่ๆมาแนะนำอีกนะครับ (ใครอยากได้เพลงอะไรบอกได้ครับจะหามาฝากครับ)

งานวิศวรำลึก ครั้งที่ 2

วิศวรำลึก ครั้งที่2

สมาคมศิษย์เก่า คณะวิศวกรรมศาสตร์ แห่งมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี ขอเรียนเชิญศิษย์เก่า ทุกรุ่น ทุกสมัยทั้ง คอ.บ.และ วศ.บ. เริ่มตั้งแต่การก่อตั้งคณะวิศวกรรมเทคโนโลยี(วิทยาเขตเทเวศร์) คณะวิศวกรรมศาสตร์ (สถาบันเทคโนโลยีราชมงคล(ศูนย์กลางสถาบันฯ)และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล) จนถึงคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี

สมาคมศิษย์เก่า คณะวิศวกรรมศาสตร์ แห่งมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี ขอเรียนเชิญศิษย์เก่า ทุกรุ่น ทุกสมัยทั้ง คอ.บ.และ วศ.บ. เริ่มตั้งแต่การก่อตั้งคณะวิศวกรรมเทคโนโลยี(วิทยาเขตเทเวศร์) คณะวิศวกรรมศาสตร์ (สถาบันเทคโนโลยีราชมงคล(ศูนย์กลางสถาบันฯ)และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล) จนถึงคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี ทุกท่าน ร่วมงาน “วิศวรำลึก ครั้งที่2” วันเสาร์ที่ 28 สิงหาคม 2553 ตั้งแต่เวลา 18.00 น. เป็นต้นไป ณ หอประชุมใหญ่ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี ถนนรังสิต-นครนายก ต.คลองหก อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี

บัตรราคา 500 บาท โต๊ะละ 5,000 บาท (10 ที่) บัตรมีจำหน่ายที่ สมาคมศิษย์เก่าคณะวิศวกรรมศาสตร์ แห่งมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี ชั้น 9 อาคารเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี

โทร.0-2549-4641 , 0-25493596
โทรสาร 0-2549-4642
Email: rmuttengineer@hotmail.comอีเมลนี้จะถูกป้องกันจากสแปมบอท แต่คุณต้องเปิดการใช้งานจาวาสคริปเพื่ออ่านมันได้
หรือดูรายละเอียดได้ที่ www.en.rmutt.ac.th

วันอังคารที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2553

Polymer Engineer RMUTT generation 2 (ต่อ)

มีต่อครับ
รูปพอลิเมอร์รุ่น 2 รับน้องพอลิเมอร์รุ่น 3 ครับ

เตรียมพร้อมกันเต็มที่เลยนะครับ (ได้แกล้งน้องๆพี่ๆเต็มที่แน่นอนครับ อิอิ)

เป็นน้องใหม่ก็ต้องยอมรับทั้งน้ำตาครับ

เมื่อดูภาพแล้วก็ยังรู้สึกได้ว่าอยากพบเจอกับกิจกรรมเหล่านี้อีกครับ เมื่อก่อนผมเคยมองว่าทำไม ต้อง ว๊าก ทำไมต้องโหด แบบนั้น ผมเองเคยโดนรับน้องมาก่อนแล้ว...ผมคิดตอนนั้นว่า ทำไมต้องว๊ากด้วยในเมื่อพูดกันดีๆก็ได้คนนะไม่ใช่... ผมคิดแบบนั้นผมไม่ชอบการรับน้องเลยสักนิดเดียว...แต่ผมไม่เคยโดดเลยสักครั้ง ^^

การรับน้องทำให้เราได้พบเพื่อนใหม่ เพราะแต่ละคนมาจากต่างที่ต่างถิ่นต่าง สถาบันถ้ารับน้องแล้วทำให้รุ่นน้องทุกคนได้ ฟันฝ่า อุปสรรค์ที่ร้ายไปด้วยกัน จะยิ่งทำให้ สนิทกันเร็วมากขึ้น และยังได้ทำความรู้จักรุ่นพี่อีกด้วย
สาเหตุที่พี่ๆเค้าต้องว๊าก ก็เพื่ออยากให้น้องฟังและเคารพ
ถ้าพูดนิ่มๆ น้องๆที่มีมากกว่า พี่ว๊าก ก็จะไม่ฟัง

อย่าคิดว่าการ รับน้องไม่ได้ให้ประโยชน์หรือคิดว่ารุ่นพี่ทำไปเพราะความสะใจ
เหตุผลสำคัญคืออยากให้ น้องๆทุกคน รัก สถาบัน และสามัคคีกัน^^
รุ่นพี่ของพี่คนนึงเคยกับพี่ว่าพูดว่า
'' ถ้าแค่อุปสรรค์แค่นี้ยังผ่านมันไปไม่ได้แล้ว ต่อไปจะสอนรุ่นน้องยังไง ''

และการรับน้องครั้งนี้จะเป็นความทรงจำที่ดีของน้องๆตลอดไป^^

ไอ้ท่าที่เห็นนี้มันใช่ท่าหยียบหรือป่าวอ่ะ เพลงนี้มันยังใช่กันมาตลอดเลยหรือป่าวครับ

พุงยื่นแล้วครับน้อง

เขาทำไรกันอ่ะ

น้องกร ทำไรน้องเขาละครับเนี้ย

เล่นกันเสียเละเลยครับ

พี่รักน้องครับ แต่ทำไมแกล้งน้องเสียจนเละขนาดนี้ละ (รักจริงหรือป่าวเนี้ย)

พี่จอห์นโดนเหมือนกันเหรอเนี้ย จำไม่ได้เลย

จำได้ว่าน้องคนนี้แหล่ะ พี่ว๊ากรุ่นนั้นพอจะจำได้

Polymer Engineer RMUTT generation 2

           วันนี้ได้เข้าไปดู Hi5 ของตัวเอง ซึ่งไม่ได้ทำอะไรกับมันเลยมานานมากแล้ว (คิดย้อนไปก็ประมาณ 1,095 วัน พูดให้เห็นว่ามันนานมากๆๆจริง บวกลบคูณหารก็ประมาณ 3ปี) ก็เห็นมีHi5 กลุ่มpolymer rmutt ด้วย ซึ่งผมเองก็ได้สมัครเป็นสมาชิกไว้ตั้งนานแล้ว แต่ก็ไม่ได้เข้าไปดูเป็นจริงเป็นจังสักเท่าไหร่ วันนี้หลังเลิกงานก็ได้แอบเข้าไปดู (ทำไมต้องแอบเข้าไปดู ไม่เข้าใจตัวเองเลย) เอาเป็นว่าเข้าไปดูอย่างเต็มที่เลย ก็เห็นความเหนี่ยวแน่นมากๆของ polymer engineer RMUTT generation 2 ที่ได้ทำHi5 ของกลุ่มและติดต่อสื่อสารกันตลอด (ปลื่มใจจริงๆเลยครับ)
         ผมยอมรับเลยจริงๆว่า พอลิเมอร์รุ่น 2 ของเราเนี้ย รัก สามัคคีกันมาก ติดต่อกันตลอด (พอลิเมอร์รุ่น 1 แบบผมอายเลย) โดยเฉพาะกลุ่มทีอยู่ระยอง ชลบุรี ซึ่งมีทั้งพอลิเมอร์รุ่น 1, 2 และรุ่นอื่นๆ รวมทั้งรุ่นพี่พลาสติกอย่างพี่ทรัพย์ ที่มีการติดต่อ ไปเที่ยวด้วยกัน ตลอด
         ด้วยความอิจฉา ก็เลยนำรูปความสามัคคีรวมกันเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของพอลิเมอร์รุ่น2 มาให้ชมกัน (แอบขโมยมานะครับเนี้ยยังไม่บอกเจ้าของHi5กลุ่มพอลิเมอร์เลย เอาเป็นว่าบอกตรงนี้แล้วกันนะครับ อิ อิ)

รูปหมู่ของ พอลิเมอร์ รุ่น 2 ครับ

อันข้างบนนี้ผมไม่รู้จะบรรยายยังไงดีครับ แต่เอาเป็นว่าพวกเขาเป็นพอลิเมอร์รุ่น 2 ซึ่งยามเรียนพวกเขาเรียน ยามสนุก และมีกิจกรรมทุกคนก็สนุกกับกิจกรรม (มีต่อครับ)

วันพฤหัสบดีที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

Polymer Engineer RMUTT generation 1

วันนี้นั่งเปิดAlbum รูปตอนเรียนแล้วรู้สึกว่าตัวเองกำลังนั่งยิ้มให้กับรูปเก่าๆเหล่านั้น รูปสมัยเรียนปริญญาตรี ที่คลองหก ถ้าหากใครมาเห็นเรานั่งยิ้มคนเดียว คงหาว่าเราบ้าแน่นอน แต่ดีนะเนี้ยที่อยู่คนเดียว

ภาพเก่าๆตรงหน้า ทำให้หวนคิดถึงถึงความรู้สึกเก่าๆได้ดีจริงๆ ทั้งเรื่องสนุก เรื่องฮาๆๆ ของพวกเรา หลายๆอย่างที่เคยลืมเลือนมันไปแล้ว เมื่อมานั่งดูภาพเหล่านี้ ทำให้ความทรงจำอันลางเลือน ค่อยๆแจ่มชัดมากขึ้น ลองมาดูกันครับว่ามีรูปใครกันบ้าง

หนุ่มๆ polymer engineer รุ่น 1 ดูกันเลยว่าใครหล่อกว่าใครครับ

นี่ก็รูป 4 สาวๆ สวยๆ ของเราครับ (Girly berry ของ พอลิเมอร์)

ไปดูงานกันนะครับเนี้ย (ยังจำได้เลยว่าไปดูงานโรงงานทีวังน้อย อยุธยา โรงงานผลิต Rubber part) ตอนSummer เรียนRubber process และ Rubber engineering ของอ. ชาคริต กับ อ. พงษ์ธร

อันนี้ไปเที่ยวสระบุรี น้ำตกเจ็ดสาวน้อย ทุ่งทานตะวัน เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ไร่องุ่นกัน ไปกันแบบพอเพียงกันจริงๆ ไปรถสองแถวที่วิ่งในคลองหก ยังจำได้ว่ากินข้าวกล่องท่ามกลางแมลงที่เพิ่งเกาะขี้ช้างที่ทุ่งทานตะวันมาใหม่ๆ (กินกันไปได้ไงก็ไม่รู้เนอะ อิอิ)

ภาพสองภาพสุดท้ายเป็นงานเลี้ยงส่งพวกเรา polymer engineer รุ่น 1 แต่งองค์ทรงเครื่องกันเสียสวยแบบไม่ยอมให้ใครเลยนะเพื่อนเรา ดูแล้วก็ตลกดีนะ

ผมแค่อยากแบ่งปันความคิดถึงให้กับเพื่อนๆทุกคน อย่างน้อยภาพหนึ่งภาพที่ได้เห็นมันก็สามารถบรรยายอะไรต่อมิอะไรไว้มากมาย นอกจากนี้ยังเก็บบรรจุมิตรภาพและไมตรีอันแสนดีและงดงามของพวกเราทุกๆคนเอาไว้

หากใครมีภาพมากกว่านี้เกี่ยวกับพวกเรา ยิ่งถ้าหากมีตั้งแต่เริ่มปี1 จนจบปี 3 ได้ยิ่งดีเลยครับ เดียวผมจะเอามาลงให้ครับ

มาเรียนและฝึกภาษาอังกฤษกันให้เก่งกันดีกว่า

เหนื่อยอีกแล้ววันนี้ ต้องมานั่งทำTechnical Report ที่ยังสะสางไม่จบสักที ลูกค้าก็ส่งe-mailมาทวง Technical Report เช้า สาย บ่าย เย็น เล่นเอามึนกับเจ้าReportของลูกค้า วันนี้จัดการเสร็จไปแล้ว 2 report จาก 2 Product ตอนนี้ยังค้างอยู่อีก 3 report คิดแล้วต้อแต้จริงๆเลย

ถ้าหากเจ้า Report ที่ผมทำมันเป็นภาษาไทยผมคงจัดการกับมันเสร็จไป วันเดียว 5 report ได้อย่างสบายๆเลยครับ แต่นี้มันไม่ใช่ๆๆๆๆๆๆๆๆๆ (ลากเสียงให้ยาวๆเอาไว้จะได้เห็นภาพกัน ว่ามัีนยากแค่ไหน)มันต้องเป็นภาษาอังกฤษ (ก็ไอ้ลูกค้าดันเป็นฝรั่งทั้งน้าน ทำไมภาษาไทยไม่เป็นภาษาสากลเสียให้มันรู้แล้วรู้รอดนะครับ แอบคิดในใจมานาน จะได้ไม่ต้องมาปวดหัวแบบนี้)ที่เผอิญต้นตระกูลอันสูงส่งของผม และของหลายๆคนที่กำลังอ่านอยู่ก็ไม่ได้ใช้เจ้าภาษาอันนี้ด้วยสิครับ มันเลยสุดแสนจะทรมานหัวจิตหัวใจคนที่ไม่เก่งภาษาอย่างพวกเรา (หรืออาจเป็นผมคนเดียวเสียก็ไม่รู้ อิอิ)

ใช่ว่าผมจะไม่เก่งภาษาเสียที่เดียว อย่างน้อยผมก็พออ่าน เขียน ฟัง พูด(ได้ค่อนข้างแย่หน่อย)ซึ่งผมได้พยายามกับเจ้าภาษาอังกฤษมาตั้งนานแล้ว เริ่มตั้งแต่เรียน ปวส. ปริญญาตรี ยิ่งปริญญาโท เนี้ยยิ่งต้องฝึกอย่างแสนสาหัสเลยครับ เพราะวิทยานิพนธ์ที่ผมทำเนี้ย หลักสูตรผมก็ดันบังคับให้ต้องเขียนภาษาอังกฤษยกเล่มเลย ไอ้เราก็ไม่เก่งสักเท่าไหร่ ก็พยายามสุดความสามารถที่มีอยู่ แถมบ้างครั้งก็ยังแอบ คัดลอกข้อความภาษาอังกฤษที่เป็นpaper ภาษาอังกฤษที่เขาได้ตีพิมพ์ไปแล้วดัดแปลง ตัดต่อทางพันธุกรรมเล็กน้อย เพื่อให้ได้วิทยานิพนธ์ที่เสร็จสมบูรณ์ แต่ด้วยความโชคดีมากๆๆๆๆของผมที่อาจารย์ที่ปรึกษาที่แสนดี แสนสวยและเข้มงวดอย่าง ผศ.ดร นพิดา หิญชีระนันทน์ และ ดร.ฉันท์ทิพ คำนวนทิพย์ ช่วยกันตบ ช่วยกันตี ทำให้ผมสำเร็จจนได้ ต้องขอขอบคุณมากจริงๆครับ

ที่นี้ก็เข้ามาเนี้อเรื่องที่จะแนะนำวันนี้เกี่ยวกับภาษาอังกฤษที่ผมได้ลองทำ ลองฝึกด้วยตัวเอง (ไม่เคยเรียนภาษาอังกฤษจริงๆจังๆสักที) คือ

1. ต้องทำใจก่อนครับ (อิอิ เพราะถ้าใจไม่อยากเรียนรู้ สมอง และจิตใจของเราต้องปิดกันความอยากรู้อยากเห็น อยากทำให้ได้ไปเสียหมดละครับ ต้องลองมองดูว่าภาษาอังกฤษมันดีกับเราเพียงใด หากเราเก่งภาษาอังกฤษ เราจะมีคนชื่นชมมากมายเพียงใด สำหรับคนที่อยากเท่ห์เลยครับ เพราะผมจะรู้สึกว่าใครที่สามารถใช้ภาษาอังกฤษได้เก่ง คุยกับฝรั่งได้ ช่างเท่ห์เสียจริงเลยครับ)

2. ลองหาที่เรียนภาษาอังกฤษที่เปิดสอน ซึ่งมีทั้งที่เป็นคนไทยและต่างชาติ แต่ถ้าหากได้เรียนกับครูต่างชาติได้ยิ่งดีเลยครับ เพราะต้องใช้ภาษาอังกฤษทั้งคอร์สเลย คงจะเคยชินมากขึ้นครับ แต่ใช่ว่าครูคนไทยจะไม่เก่งนะครับ ครูหลายท่านก็สอนดีไม่แพ้ต่างชาติเช่นกันครับ

3. ต้องพยายามอ่านภาษาอังกฤษมากๆครับ อ่านหนังสือพิมพ์ หนังสือการ์ตูนที่เป็นภาษาอังกฤษเยอะๆครับ เพราะการผ่านสายตา ทำให้เรารู้สึกเคยชิน ได้รู้จักคำศัพท์มากมายที่อยู่ในหนังสือที่เราอ่าน หากเราไม่รู้คำใด ก็หาคำศัพท์เหล่าเอาไว้ยิ่งทำให้เราได้เพิ่มจำนวนคำศัพท์ที่เรารู้มากขึ้นครับ

4. ดูหนัง ฟังเพลง ดูข่าวภาษาอังกฤษ เพราะเราจะได้ชินหูกับสำเนียงที่เจ้าของภาษา เพื่อพัฒนาการฟังของเพื่อนๆให้ดีขึ้นครับ(อันนี้คืออุปสรรคที่แสนยากเย็นของผมเลยครับ เพราะตอนนี้ผมยังฟังฝรั่งพูดไม่ออกเลยครับ)

5. อันนี้เป็นเทคนิคที่ผมใช้มานานแล้ว คือผมชอบฟังเพลงภาษาอังกฤษแล้ว หาเนื้อเพลงของเพลงนั้นๆมาแปล หรือบ้างครั้งอาจจะหาเนื้อเพลงที่แปลเป็นภาษาไทยเรียบร้อยแล้วมานั้งอ่าน ว่าเขาหมายความว่าอย่างไรบ้าง เขาออกเสียงกันยังไงกัน เท่านี้ผมก็ได้คำศัพท์ และการใช้ การเขียนประโยคภาษาอังกฤษได้เพิ่มขึ้นแล้วครับ

หากเพื่อนสนใจเอาวิธีการที่ผมเคยลองใช้ และฝึกกับเจ้าภาษาอังกฤษมาแล้วไปใช้ แล้วฝึกฝนกันเยอะๆ รับรองว่าต้องเก่งภาษากันแน่นอนครับ (ผมก็ต้องไปฝึกบ้างแล้วครับ)

ใครมีวิธีการฝึกภาษาอังฤษที่นอกเหนือจากที่ผมได้บอกไป สามารถเอามาแชร์ให้คนอื่นได้รู้บ้างก็ดีนะครับ