หน้าเว็บ

วันพฤหัสบดีที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

มาเรียนและฝึกภาษาอังกฤษกันให้เก่งกันดีกว่า


               เหนื่อยอีกแล้ววันนี้ ต้องมานั่งทำTechnical Report ที่ยังสะสางไม่จบสักที ลูกค้าก็ส่งe-mailมาทวง Technical Report เช้า สาย บ่าย เย็น เล่นเอามึนกับเจ้าReportของลูกค้า วันนี้จัดการเสร็จไปแล้ว 2 report จาก 2 Product ตอนนี้ยังค้างอยู่อีก 3 report คิดแล้วต้อแต้จริงๆเลย
ถ้าหากเจ้า Report ที่ผมทำมันเป็นภาษาไทยผมคงจัดการกับมันเสร็จไป วันเดียว 5 report ได้อย่างสบายๆเลยครับ แต่นี้มันไม่ใช่ๆๆๆๆๆๆๆๆๆ (ลากเสียงให้ยาวๆเอาไว้จะได้เห็นภาพกัน ว่ามัีนยากแค่ไหน)มันต้องเป็นภาษาอังกฤษ (ก็ไอ้ลูกค้าดันเป็นฝรั่งทั้งน้าน ทำไมภาษาไทยไม่เป็นภาษาสากลเสียให้มันรู้แล้วรู้รอดนะครับ แอบคิดในใจมานาน จะได้ไม่ต้องมาปวดหัวแบบนี้)ที่เผอิญต้นตระกูลอันสูงส่งของผม และของหลายๆคนที่กำลังอ่านอยู่ก็ไม่ได้ใช้เจ้าภาษาอันนี้ด้วยสิครับ มันเลยสุดแสนจะทรมานหัวจิตหัวใจคนที่ไม่เก่งภาษาอย่างพวกเรา (หรืออาจเป็นผมคนเดียวเสียก็ไม่รู้ อิอิ)
           ใช่ว่าผมจะไม่เก่งภาษาเสียที่เดียว อย่างน้อยผมก็พออ่าน เขียน ฟัง พูด(ได้ค่อนข้างแย่หน่อย)ซึ่งผมได้พยายามกับเจ้าภาษาอังกฤษมาตั้งนานแล้ว เริ่มตั้งแต่เรียน ปวส. ปริญญาตรี ยิ่งปริญญาโท เนี้ยยิ่งต้องฝึกอย่างแสนสาหัสเลยครับ เพราะวิทยานิพนธ์ที่ผมทำเนี้ย หลักสูตรผมก็ดันบังคับให้ต้องเขียนภาษาอังกฤษยกเล่มเลย ไอ้เราก็ไม่เก่งสักเท่าไหร่ ก็พยายามสุดความสามารถที่มีอยู่ แถมบ้างครั้งก็ยังแอบ คัดลอกข้อความภาษาอังกฤษที่เป็นpaper ภาษาอังกฤษที่เขาได้ตีพิมพ์ไปแล้วดัดแปลง ตัดต่อทางพันธุกรรมเล็กน้อย เพื่อให้ได้วิทยานิพนธ์ที่เสร็จสมบูรณ์ แต่ด้วยความโชคดีมากๆๆๆๆของผมที่อาจารย์ที่ปรึกษาที่แสนดี แสนสวยและเข้มงวดอย่าง ผศ.ดร นพิดา หิญชีระนันทน์ และ ดร.ฉันท์ทิพ คำนวนทิพย์ ช่วยกันตบ ช่วยกันตี ทำให้ผมสำเร็จจนได้ ต้องขอขอบคุณมากจริงๆครับ
        ที่นี้ก็เข้ามาเนี้อเรื่องที่จะแนะนำวันนี้เกี่ยวกับภาษาอังกฤษที่ผมได้ลองทำ ลองฝึกด้วยตัวเอง (ไม่เคยเรียนภาษาอังกฤษจริงๆจังๆสักที) คือ
        1. ต้องทำใจก่อนครับ (อิอิ เพราะถ้าใจไม่อยากเรียนรู้ สมอง และจิตใจของเราต้องปิดกันความอยากรู้อยากเห็น อยากทำให้ได้ไปเสียหมดละครับ ต้องลองมองดูว่าภาษาอังกฤษมันดีกับเราเพียงใด หากเราเก่งภาษาอังกฤษ เราจะมีคนชื่นชมมากมายเพียงใด สำหรับคนที่อยากเท่ห์เลยครับ เพราะผมจะรู้สึกว่าใครที่สามารถใช้ภาษาอังกฤษได้เก่ง คุยกับฝรั่งได้ ช่างเท่ห์เสียจริงเลยครับ)

        2. ลองหาที่เรียนภาษาอังกฤษที่เปิดสอน ซึ่งมีทั้งที่เป็นคนไทยและต่างชาติ แต่ถ้าหากได้เรียนกับครูต่างชาติได้ยิ่งดีเลยครับ เพราะต้องใช้ภาษาอังกฤษทั้งคอร์สเลย คงจะเคยชินมากขึ้นครับ แต่ใช่ว่าครูคนไทยจะไม่เก่งนะครับ ครูหลายท่านก็สอนดีไม่แพ้ต่างชาติเช่นกันครับ
        3. ต้องพยายามอ่านภาษาอังกฤษมากๆครับ อ่านหนังสือพิมพ์ หนังสือการ์ตูนที่เป็นภาษาอังกฤษเยอะๆครับ เพราะการผ่านสายตา ทำให้เรารู้สึกเคยชิน ได้รู้จักคำศัพท์มากมายที่อยู่ในหนังสือที่เราอ่าน หากเราไม่รู้คำใด ก็หาคำศัพท์เหล่าเอาไว้ยิ่งทำให้เราได้เพิ่มจำนวนคำศัพท์ที่เรารู้มากขึ้นครับ
        4. ดูหนัง ฟังเพลง ดูข่าวภาษาอังกฤษ เพราะเราจะได้ชินหูกับสำเนียงที่เจ้าของภาษา เพื่อพัฒนาการฟังของเพื่อนๆให้ดีขึ้นครับ(อันนี้คืออุปสรรคที่แสนยากเย็นของผมเลยครับ เพราะตอนนี้ผมยังฟังฝรั่งพูดไม่ออกเลยครับ)
       5. อันนี้เป็นเทคนิคที่ผมใช้มานานแล้ว คือผมชอบฟังเพลงภาษาอังกฤษแล้ว หาเนื้อเพลงของเพลงนั้นๆมาแปล หรือบ้างครั้งอาจจะหาเนื้อเพลงที่แปลเป็นภาษาไทยเรียบร้อยแล้วมานั้งอ่าน ว่าเขาหมายความว่าอย่างไรบ้าง เขาออกเสียงกันยังไงกัน เท่านี้ผมก็ได้คำศัพท์ และการใช้ การเขียนประโยคภาษาอังกฤษได้เพิ่มขึ้นแล้วครับ
หากเพื่อนสนใจเอาวิธีการที่ผมเคยลองใช้ และฝึกกับเจ้าภาษาอังกฤษมาแล้วไปใช้ แล้วฝึกฝนกันเยอะๆ รับรองว่าต้องเก่งภาษากันแน่นอนครับ (ผมก็ต้องไปฝึกบ้างแล้วครับ)

ใครมีวิธีการฝึกภาษาอังฤษที่นอกเหนือจากที่ผมได้บอกไป สามารถเอามาแชร์ให้คนอื่นได้รู้บ้างก็ดีนะครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บทความวิชาการที่น่าสนใจ

Ads

โฆษณา

Google friend connect

My Banner

Create your own banner at mybannermaker.com!
Copy this code to your website to display this banner!